วันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

เขารัง จุดปั่นยอดฮิตของภูเก็ต





อนุสาวรีย์พระยารัษฎานุประดิษฐ์ มหิศรภักดี อดีตเจ้าเมืองภูเก็ต



 เขารัง:
   คนทั่วไปที่เคยมาภูเก็ตก็จะเคยได้ยินแม้จะคุ้นกับชื่อนี้ ถ้าเป็นคนต่างถิ่นอาจจะจินตนาการถึงชื่อของเขารังว่าเป็นภูเขาที่ประกอบไปด้วยหินลูกรัง ซึ่งโดยการออกเสียงตามสำเนียงท้องถิ่นใต้ฝั่งตะวันออกจะหมายถึง ภูเขาลูกรังตรงเป๊ะ แต่ชื่อนี้ถ้าออกเสียงแบบภูเก็ตแท้ๆ ดังเดิม จะออกเสียงเป็น "เขาหลัง" ตาม การออกเสียงแบบปักษ์ใต้ฝั่งตะวันตก ซึ่งก็แปลได้ว่า ภูเขาลูกรังเช่นกัน



ทิวทัศน์ เมืองภูเก็ต มองจากจุดชมวิว



    จากสี่แยกเขารัง ถึงยอดเขาวัดได้  2 กิโลเมตรพอดี บนยอดเขารัง มีร้านอาหารอยู่ใกล้ๆหอชมวิวของเทศบาลนครภูเก็ต ควบคู่ไปกับร้านกาแฟเก่าแก่ มีชื่อเสียงตั้งแต่อดีต ในนามทุ่งคากาแฟ ให้บริการกาแฟ อาหารและเครื่องดื่มบนทำเลจุดชมวิวเมืองภูเก็ตที่สวยที่สุดแห่งหนึ่ง


ประตูทางเข้าทุ่งคากาแฟ






หยุดทักทายนักท่องเที่ยว ที่มาเดินออกกำลังกายบนเขารัง





    มาว่าเรื่องการปั่นจักรยานขึ้นเขารัง :

     เขารัง(ส่วนใหญ่จะขึ้นด้านถนนคอซิมบี้ตรงสี่แยกเขารัง)เป็นเส้นทางเหมาะที่จะฝึกกำลังขาสำหรับนักปั่นหน้าใหม่เป็นที่สุด สำหรับนักปั่นที่ต้องการฝึกกำลังขาจริงๆก็ต้องปั่นขึ้นเขารังไม่ต่ำกว่า 5 รอบต่อวัน เส้นทางเส้นนี้นับเป็นเส้นทางครูสำหรับนักปั่นภูเก็ตทุกคน 


เส้นทางเขารังยามเช้า

โค้งก่อนถึงศาลา2
ผมมาเดี่ยว แต่มาดี
ผมมาชุดใหญ่ บนถนนที่โรยด้วยดอกชัยพฤกษ์

 มาปั่นด้วยกันวันหยุด

ยังเช้าอยู่ แต่พอมองเห็นดอกชัยพฤกษ์ ร่วงเกลื่อนถนน


    ส่วนเส้นทางที่หฤโหดและท้าทายคือเส้นทางที่ขึ้นทางสวนสุขภาพ-สามกอง ระยะทาง 1.2 กิโลเมตรเศษ เป็นเส้นทางที่ชันมาก แม้ด้วยระยะทางสั้นๆ แต่เป็นเส้นทางชันเกิน45องศาและเป็นการขึ้นเนินตลอด






เส้นทางชันลงเขา สายเขารัง-สามกอง
ภูเก็ต หรือ ทุ่งคาในอดีต ที่เรียกชื่อตามอย่างฝรั่ง



ขึ้นถึงเขารังแล้วก็อย่าลืมไปถ่ายรูปที่หอชมวิวไว้เป็นที่ระลึกก่อนจะลงพื้นล่าง พรุ่งนี้เจอกันใหม่บนเขารัง


วันจันทร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ขี่จักรยาน คนเดียวจริงๆ(เพราะยังเช้าอยู่)

 

     ถ้าจะออกจากบ้านก่อนตี 5ตอนเช้ามืด อากาศจะเย็นสบาย บนถนนจะมีรถยนต์เล่นน้อยมาก อาจมีนักปั่น ปั่นสวนทางมาประปราย จุดหมายปลายทางที่น่าสนใจคือ สะพานเทียบเรือ Navy pier หรือสะพานเทียบเรือของศูนย์ชีววิทยาทางทะเลภูเก็ต 
      ถ้าปั่นมาตามถนนศักดิเดชด้วยความเร็วเฉลี่ยประมาณ 27 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ตามเส้นทางปกติ ก็จะใช้เวลาไม่เกิน 30 นาที ถ้าคิดว่าจะเข้าตามเส้นทางเขาขาด ก็จะเป็นเส้นทางที่สวยมาก แต่ถ้ามี เหตุผลเกิน 2 ประการ คือ ไม่เคยไปและ ไม่มั่นใจในพลังขาของตัวเอง ขอแนะนำให้ไปตามเส้นทางปรกติจะดีกว่า
     เมื่อปั่นมาจนจะถึงสามแยกก่อนถึงปั้นจั่นเหล็ก อ่าวมะขาม ให้เลี้ยวขวาไปตามเส้นทางทางแหลมพันวา ถ้าขี่ตรงไปก็จะเป็นท่าเทียบเรือเก่า วันนั้น ยังเช้ามาก ท้องฟ้ายังมืดสนิท ก็เลยลองแวะไปที่ท่าเทียบเรือเก่า(ที่ไม่ได้แวะมาเป็นเวลานานแล้ว)   ระหว่างทาง ก็ต้องเผชิญกับสุนัขเจ้าถิ่นคอยเห่าไล่ตั้งท่าจะกัด แต่ก็พาตัวรอดรอดมาได้อย่างหวุดหวิด
   เมื่อฝ่าด่านสุนัขไปจนถึงที่ท่าเรือเก่า ก็ไปจอดพักเหนื่อยที่ปั้นจั่นเหล็ก มีแพเหล็กของบริษัทนำชัยขนส่งทางทะเลจอดเทียบท่าอยู่ ยืนอยู่คนเดียวประมาณ 10นาที... มืดมาก ไม่มีคนเลย.. บรรยากาศ วังเวง.. รู้งี้ไม่มาแน่.. รีบกลับออกมา พร้อมกับเด็ดกิ่งมะขามทำเป็นไม้เรียวไว้ไล่สุนัขเจ้าถิ่น ตอนขากลับ
     ก็เป็นไปดังคาด เจ้าถิ่นทั้ง3ต่างก็ตั้งท่าจะไล่กัด ก็เลยใช้ไม้เรียวที่เตรียมมา ฟาดไปในอากาศจนไปรบกวนระบบประสาท ได้ผลเกินคาด ทั้ง3 หยุดและถอยหลังกรูดยินยอมให้ผ่านไปโดยดี  หลุดจากสุนัขเจ้าถิ่นมาได้ ก็มาพบปัญหาตอนปั่นขึ้ันเนินที่เนินไทยซาร์โก 

พักเหนื่อย ดูเรือจอดเดี่ยวๆในอ่าว ยามเช้า
   
เรือ ต 218 ทอดสมออยู่พอดี
   
      เนินตรงสามแยกไทยซาร์โก เป็นเนินที่ไม่สูงมาก 

    ถ้ามาเป็นครั้งแรกหรือไม่คุ้นกับการปั่นจักรยานแถบนี้ ก็น่าจะมีปัญหาการปั่นขึ้นเนินบ้าง วันนี้ได้เปลี่ยนเกียร์ต่ำตั้งแต่ต้นทางแต่เกียร์ที่เซ็ทมายังไม่เข้าที่เกิดสับเกียร์ไม่ลง ทำให้การปั่นขึ้นเนินมีปัญหาขึ้นมาเล็กน้อย ก็เลยต้องแก้ปัญหา ด้วยการยืนโยกปั่นจนคอแห้งต้องเติมน้ำลงคอไปหลายอึก กว่าจะถึงท่าเทียบเรือก็ทำให้อ่อนแรงไปเยอะ


สะพานเหล็กตอนเช้ามืด


   มาถึงที่ท่าเทียบเรือแล้วแต่ก็ยังมืดอยู่ ที่ท่าเทียบจะมีเรือจอดเทียบประจำอยู่2-3ลำ ส่วนใหญ่ก็เป็นเรือของกรมประมงหรือของกรมทรัพยากรทางทะเล นอกนั้นก็เป็นเรือลาดตระเวณของกองเรือภาคที่3 วันนี้ก็เช่นกันเรือ ต.218 ทอดเทียบท่าอยู่ ได้ไปยืนถ่ายรูปใกล้ๆ ก่อนจะปั่นกลับไปที่สะพานหิน

Sun rise at Sapan Hin





     บรรยากาศยามเช้าที่สะพานหินเงียบสงบแต่ก็มีคนมาปั่นจักรยานในช่องจักรยานหนาตาพอสมควร พอเลย 6:30 น.ไปแล้ว ต่างก็ทะยอยกันกลับทำให้บรรยากาศเหงาขึ้นมาทันที สำหรับคนที่เริ่มต้นปั่นใหม่ๆก็ควรมาใช้พื้นทีที่นี่เพราะนอกจากจะมีทิวทัศน์ที่สวยงามแล้วยังปลอดภัยเหมาะแก่การออกกำลังกายเป็นอย่างยิ่ง