หลายคนไม่อาจจะทนต่อแรงเสียดทาน(ที่ไม่เกี่ยวกับสัมประสิทะิ์แรงเสียดทานทางกลสาสตร์)ของกระบวนการคิดแบบนี้ มักมีอคติกับขอบล้อเดิมๆที่ติดมากับรถ ทำให้มีความรู้สึกว่ารถไม่ลื่นไหลและต้องใช้แรงมากกว่าปรกติ ผมเองก็ไม่ได้รับการยกเว้นจากอคติอันนี้จึงได้ไปถอยขอบวงล้อใหม่ Paco มาในราคา 7,900บาทมาสนองตัณหา
![]() |
ขอบล้อ Paco ต่ำกว่าหมื่น แค่นี้ก็เหลือเฟือแล้ว |
![]() |
รวมโม่แล้วราคาแค่หลักพัน |
![]() |
ตัวนี้ทั้งชุดเลยแสนไปค่อนครึ่ง |
![]() |
ดูใกล้ๆ..อุปกรณ์หลักแสน |
![]() |
รถราคาหลักหมื่น..พาไปทุกทีทำระยะทางไม่ต่ำกว่า5000 กิโลแล้ว |
![]() |
กระติกน้ำธรรมดาราคาหลักหลายร้อย..ไม่ช่วยให้รถเบาขึ้น |
ผลสรุปจากการเปลี่ยนขอบล้อ
1 ลดน้ำหนักรถลดลงประมาณ 0.5 กิโลกรัม เนื่องจากขอบล้อเบาลงกว่าขอบล้อที่ติดมากับรถ
2 ทำความเร็วได้เพิ่มขึ้นเล็กน้อยแต่ยังเหนื่อยเหมือนเดิมทุกประการ
3 ตอนลงเนิน พักเท้าได้นานกว่าล้อเดิมเล็กน้อยจากความรู้สึก(ที่เข้าข้างตัวเอง)
4 สามารถเป็นหัวลากได้เป็นระยะทางกว่า 6 กิโลเมตร ดีกว่าวงล้อเดิมเล็กน้อย
5 ผลสนองตอบต่อการการออกแรงปั่น ไม่เท่าผลสนองตอบด้านคำคุยโต
สรุป เปลี่ยนขอบล้อแล้วดีขึ้นเพียงเล็กน้อย เพราะผมยังปั่นตามคนอื่นไม่ทันเหมือเดิม
โดยความคิดเห็นส่วนตัวแล้วการจะปั่นไปได้ดีแค่ไหนขึ้นอยู่กับ
1 การใช้ชุดเกียร์ที่เหมาะสม ชุดเกียร์ระดับตั้งแต่ 18 เกียร์ขึ้นไปถือว่ากำลังเหมาะที่จะปั่นระยะไกล ถ้าใช้16เกียร์จะมีปัญหาการขึ้นเนินชันๆไปบ้าง ถ้าปั่นทางเรียบเป็นส่วนใหญ่ก็ไม่ต้องเปลี่ยน ถ้าเส้นทางเป็นเนินชันมากๆก็ใช้วิธีการเข็นจะดีที่สุด เป็นการประหยัดทั้งเงินและพลังงานตอนปั่นทางไกล
2 วงล้อไม่ควรหนักเกิน 1.7 ก.ก. อันนี้จึงต้องเปลี่ยน การใช้วงล้อเบาจะทำให้ปั่นได้เบาและลื่นไหลขึ้นกว่าเดิมจริง
3 สัมภาระที่พาไปด้วย -ไม่ควรมีสัมภาระ
4 กระติกน้ำขนาด 1ลิตรที่พกพาจะทำให้รถหนักขึ้น 1 กิโลกรัม การใช้กระติกน้ำขนาด 0.5 ลิตรจะช่วยให้รถเบาลง 0.5 กิโลกรัม การไปเติมน้ำระหว่างทางจะช่วยลดภาระน้ำหนักรถถึง 0.5 กิโลกรัม
5 น้ำหนักตัวคนขี่ หากน้ำหนักตัวเราลดลง 5 กิโลกรัมจะทำให้น้ำหนักที่เราต้องแบกลดลงทันที 5 กิโลกรัม จงทำตัวให้เบาเข้าไว้
6 ตัวรถ ไม่ควรหนักเกิน10กิโลกรัมแต่ก็ไม่จำเป็นต้องเบาจนถึง 7กิโลกรัม (ถ้าคิดว่าจำเป็นให้ลองอ่านข้อ5)ไม่จำเป็นต้องเป็นเฟรมคาร์บอนด์ไฟเบอร์เพราะราคาสูงเกินไป รถที่ใช้เฟรมอะลูมีเนี่ยมอัลลอยด์ดีๆก็มีให้เลือมากมาย น้ำหนักรวมที่ไม่เกิน10กิโลกรัมถือว่าพอเหมาะต่อต่อการปั่นระยะไกลได้แล้ว
7 กำลังขาและการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ สำคัญกว่าทุกข้อที่กล่าวมาทั้งหมดหากกำลังขาดี ปอดแข็งแรง การจัดระบบการเปลี่ยนเกียร์และการหายใจดี ส่วนประกอบที่กล่าวมาทั้งหมดก็มีผลต่อการปั่นเพียงเล็กน้อย
ตัวอย่างการประชาสัมพันธ์(รายการโฆษณา)ที่ค่อนข้างให้ผลดีกับผู้ขายแต่ทำให้ผู้ซื้อหมดตัวได้ง่ายๆ
2015 New Campagnolo BORA ULTRA : ของเข้ามาแล้วครับ ที่สุดของล้อเสือหมอบอันดับ 1 โลก หรือ BORA ขอบอ้วน เบามากๆ 1,160 กรัมเท่านั้น ขอบล้อล้อทรงแอโร่ตัวใหม่ กว้าง 24.2 มม.ที่ทำให้ลู่ลมกว่าเดิม ผิวขอบล้อเทคโนโลยี่ใหม่ 3DIAMANT™ ที่ทำให้ผ้าเบรคจับขอบล้อได้แนบแน่นขึ้นกว่าเดิมเพิ่มประสิทธิภาพให้การหยุดได้ดั่งใจ ดุมล้อมากับลูกปืนระบบ CULT™ ลิขสิทธิ์เฉพาะของ Campagnolo ที่ไหลลื่นกว่าล้อทั่วไปถึง 9 เท่า ซี่ลวดระบบ 3G ที่ให้การถ่ายแรงกดไปยังขอบล้อได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยซับแรงสั่นสะเทือนจากผิวถนนได้ดีเยี่ยม พร้อมกับระบบถ่วงล้อแบบ DYNAMIC BALANCING ที่ทำให้ล้อเหวี่ยงตัวได้ดีขึ้น......ล้อ New BORA แบบ Tubular หรือยางฮาฟ มีมาให้เลือกทั้งขอบขนาด 35 มม.และขอบขนาด 50 มม. ดังต่อไปนี้
- BORA ULTRA 35 DARK ขอบสูง 35 มม. สีเทาดำ โม่ Campagnolo
- BORA ULTRA 35 DARK ขอบสูง 35 มม. สีเทาดำ โม่ Shimano
- BORA ULTRA 50 DARK ขอบสูง 50 มม. สีเทาดำ โม่ Campagnolo
- BORA ULTRA 50 DARK ขอบสูง 50 มม. สีเทาดำ โม่ Shimano
- ราคาตั้งของล้อ BORA ULTRA อยู่ที่ 107,140.- บาท (สำหรับส่วนลดลองสอบถามร้านตัวแทนดูได้นะครับ)
ข้อความที่เขียนมาทั้งหมด เป็นทัศนคติส่วนตัวที่คิดและสรุปด้วยตัวเองเท่านั้น จะเห็นพ้องด้วยหรือไม่ก็แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน ความต้องการมีสังคมเฉพาะกลุ่มโดยการการลงทุนอัพเกรดรถตามที่ว่าก็เป็นสิทธิส่วนบุคคลของแต่ละคน ก็ลองพิจารณาดูว่าจะคุ้มค่าหรือเปล่าที่จะแลกอรรถรสกับการเจ็บตัวในยุคเศรษฐกิจฝืดเคืองแบบนี้
การใช้อุปกรณ์ที่มีคุณภาพพอสมควรบวกกับการฝึกซ้อมเป็นประจำเป็นหัวใจหลักของการขี่จักรยานให้สนุก การทำตามอย่างคนอื่นโดยไม่ใช้วิจารณญาณจะทำให้เดือดร้อนโดยใช่เหต วัตถุประสงค์หลักของการปั่นจักรยานคือการสร้างสันทนาการในเชิงการออกกำลังกายเพื่อสุขภาพและยังเป็นการสอดคล้องกับปรัชญาการอยู่ร่วมกันในคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นอีกระดับหนึ่ง