คงไม่มีใครเคยเห็นจักรยานคันไหนมีเกียร์ถอยหลังเพราะไม่จำเป็นต้องมี ที่ผมบอกว่าขี่ถอยหลัง หมายถึงยิ่งซ้อมมากก็ยิ่งแย่ลง ไม่มีพัฒนาการ ไปไม่ถึงไหน ปั่นซ้อมหนักเท่าไรก็ยังตามเขาไม่ค่อยจะทัน จนต้อง"เดี่ยวรถถีบ"ต่อเนื่องมาหลายเดือนและมีแนวโน้มจะ"ตลอดไป"
เคย "คิดเอาเอง" เล่นๆว่า เสน่ห์ของนักปั่นอยู่ตรงไหน หรือมีอะไรเป็นองค์ประกอบ
1 แข็งแรงดูดี
2 อัธยาศัยดีคอยให้ความช่วยเหลือคนอื่น(ด้วยท่าทีความกระตือรือร้นและจริงใจ)
2 มีรถดี แพง สวยแตะตา
3 เป็นหัวลากตลอด
4 มีอุปกรณ์คอยช่วยเหลือเพื่อนร่วมทางพร้อมมูล
5 อายุไม่มากเกินไปที่จะมีเพื่อร่วมรุ่นแบบปั่นตามกันทันไม่เป็นภาระ
6 ขยันปั่นเป็นกลุ่มและร่วมกิจกรรมสม่ำเสมอ
7 คมทั้งในฝักแลพนอกฝัก(เก่งทั้งปั่นทั้งคุย)
ผมเองหาเท่าไรก็ไม่มีสักข้อ
สาเหตุสำคัญน่าจะมาจากการไม่มีสังคม ไม่มีทั้งเวลาข้อสำคัญไม่ได้ออกไปปั่นอย่างสม่ำเสมอและไม่มีโปรแกรมการฝึกที่ถุกต้อง ยิ่งภาคใต้แทบทุกจังหวัดจะอุดมไปด้วยฝนตอนฤดูฝน โดยเฉพาะที่พังงาและภูเก็ต หลังจากเดือนมิถุนายนไปแล้ว ฝนแต่ละวันจะเอาแน่เอานอนไม่ค่อยจะได้ ดังนั้นเมื่อมีช่วงระยะเวลาที่ไม่มีฝนตก นักปั่นส่วนใหญ่จะใช้เวลาช่วงนี้เป็นช่วงเอาคืน ผมเองก็ไม่เว้น จะปั่นในช่วงฝนเว้นจังหวะตกที่ติดต่อกันหลายวัน ผลที่ได้คือยิ่งปั่นยิ่งล้าและไม่ทำให้กล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้นกว่าเดิม
มานั่งวิเคราะห์และอ่านจากข้อเขียนของนักปั่นอาชีพดูแล้วก็เลยเข้าใจได้ว่าเรามีจุดอ่อนหลายอย่างตามลักษณะการปฏิบัติ เช่น
ชอบปั่นคนเดียวเพราะเข้ากลุ่มกับคนอื่นไม่ได้ ชอบขี่เกาะหลังคนอื่นเพราะเป็นผู้นำไม่ไหวเนื่องจากไม่มีความมั่นใจในความแข็งแรงและมักจะปั่นอัดจนหมดแรง
ผมได้ถึงบางอ้อเมื่อได้อ่านเนื้อหาเกี่ยวกับจากจักรยานในเว็ปไซด์หนึ่งเห็นว่ามีประโยชน์มากจึงคัดลอกมาฝาก
Cite: http://www.thaimtb.com/forum/viewtopic.php?f=432&t=802573
http://www.udonbikes.com/forum/index.php?topic=442.0
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น